|
|||||
 |
|
|
หลังปล่อยทิ้งตลาดระดับล่างให้คู่แข่งอย่าง ซัมซุง และโมโตโรล่ามานาน ในที่สุด โนเกียก็ขอทวงส่วนแบ่งคืน ด้วยการเปิดตัวมือถือติดกล้องรุ่นใหม่ "โนเกีย 3220" ในราคา 306 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,300 บาท) ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในตลาดยุโรป เอเชีย และสหรัฐในช่วงปีนี้ มือถือราคาถูกรุ่นใหม่นี้ พกพาคุณสมบัติที่ถูกใจวัยโจ๋อย่างยิ่ง โดยเฉพาะความสามารถในการ "ส่งข้อความแสง" (ไลท์ เมสเซสจิ้ง) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถฉายแสงเป็นข้อความสั้นขึ้นบนอากาศได้ โดยอาศัยหลอดแอลอีดี (ไลท์ อิมิตติ้ง ดิโอเดส) 12 ตัวที่เรียงเป็นเส้นตรงแนวตั้งอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความลับที่ทำให้ข้อความสามารถลอยอยู่บนอากาศอยู่ที่เซ็นเซอร์ตรวจการเคลื่อนไหว (โมชั่น เซ็นเซอร์) ภายในโทรศัพท์ ทันทีที่ผู้ใช้โบกหรือแกว่งโทรศัพท์ในอากาศ ไฟแอลอีดีจะกะพริบเปิดทีละดวงจนปรากฏเป็นตัวอักษรออกมาทีละตัว และเมื่อกวัดแกว่งกลางอากาศจะเกิดภาพลวงตาให้เห็นเป็นคำครบทั้งคำ เป็นเทคนิคเดียวกับที่เห็นภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องในภาพยนตร์
อย่างไรก็ดี ข้อความหรือสัญลักษณ์ที่จะปรากฏให้เห็นกลางอากาศได้นั้นต้องเป็นคำสั้นๆ สูงสุดไม่เกิน 15 ตัวอักษร ตัวแทนจากโนเกียบอกว่า สามารถมองเห็นข้อความได้ไกลถึง 6 เมตรในตอนกลางวัน แต่จะเห็นได้ไกลกว่านั้นหากอยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างไม่มากนัก เหมาะกับผู้ที่ต้องการสื่อสารกับเพื่อนในสถานที่ชุมชนแออัด หรือในคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ภายหลังจากโนเกียประกาศเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับทั้งจากเวบไซต์และนักวิจารณ์อย่างอบอุ่น ซึ่งคาดการณ์ว่ามือถือรุ่นนี้จะนำมาใช้เล่นเกมกันตามถนนในเมือง และจะเป็นรูปแบบใหม่ในการสื่อสารตอบโต้กันกับอุปกรณ์อื่นๆ ความเคลื่อนไหวของโนเกียในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแย่งส่วนแบ่งตลาดที่สูญเสียไปให้บริษัทคู่แข่งอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โมโตโรล่า หรือผู้ผลิตรายอื่นๆ กลับคืนมา โดยบริษัทเหล่านี้มีการออกแบบมือถือที่มีรูปลักษณ์ดึงดูดผู้บริโภคมากกว่า รวมทั้งหันมาติดตั้งจอสีและกล้องถ่ายรูป ส่งผลให้มือถือของยักษ์ใหญ่โนเกียเริ่มมียอดจำหน่ายลดลง
ที่มา: ศูนย์Nokia ทางผู้ผลิตกระซิบว่า... การเขย่าต้องมีเทคนิค อย่าส่ายมั่ว.... ซ้ายไปขวา ขวาไปซ่าย ห้ามขึ้นๆลงๆ เดี๋ยว "I LOVE U" จะเป็น "I HATE U" |
|
